นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า มีแนวโน้มอาจจะปรับเป้าการเติบโตของอุตสาหกรรมประกันภัย (ทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัยไทย) ปี 2558 ลงมาอยู่ที่ 5-6% จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 10% โดยเป้าหมายใหม่นี้มาจากการเติบโตในธุรกิจประกันชีวิต 8% และประกันวินาศภัย 4-6% ซึ่งลดลงจากคาดการณ์เดิม
อีกทั้ง ในครึ่งปีหลังต้องพยายามสร้างการเติบโตของทั้ง 2 ส่วนมากขึ้น เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตในช่วงที่ผ่านมาของปีเฉลี่ยอยู่ที่ 2-3% เท่านั้น ส่วนประกันวินาศภัยต้องกระตุ้นให้ผู้ซื้อเกิดความมั่นใจทั้งในผลิตภัณฑ์และบริการเพิ่มขึ้น
หม่อมหลวง จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เอไอเอ ประเทศไทยกล่าวว่า ตอนนี้อัตราการคงอยู่ของกรมธรรม์ลดลงมาอยู่ที่ 84% จากเดิมอยู่ที่ระดับ 86% ถ้าลดลงมากกว่านี้จะเริ่มเป็นสัญญาณไม่ดี และยิ่งน่ากังวลเพิ่มขึ้น เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยปัจจุบันไม่ดีนัก โดยเฉพาะรายได้เกษตรกรที่ลดลง อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงไตรมาส 3 นี้บริษัทประกันต่าง ๆ จะเริ่มออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และจะมีลูกค้ากลุ่มที่มีกำลังซื้อมองหาผลิตภัณฑ์ประกันออมทรัพย์เพิ่มขึ้น
นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้การเติบโตของธุรกิจประกันอาจจะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ขณะที่การเบิกจ่ายภาครัฐ การลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐยังไม่มาก ส่งผลต่อการเติบโตของประกันภัยการก่อสร้างและประกันภัยทรัพย์สิน
"ปีนี้เศรษฐกิจไม่ขยาย เอสเอ็มอีก็ไม่ขยาย ประกันภัยทรัพย์สิน และประกันการก่อสร้างที่เป็นส่วนต่อจากการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐก็ไม่โตนัก จึงคาดว่าทั้งปีบริษัทน่าจะโตอยู่ที่ 4%" นายอภิสิทธิ์กล่าว
